ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองภาพรวมพฤติกรรมผู้บริโภคอาเซียนในแต่ละประเทศที่น่าสนใจมีรายละเอียดดังนี้
สิงคโปร์ | • การตัดสินใจซื้อ: ด้วยกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูง ทำให้ชาวสิงคโปร์มักนิยมเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพค่อนข้างสูง • รสนิยม: วัฒนธรรมไลฟ์สไตล์ทางตะวันตกมีอิทธิพลมากในสังคมสิงคโปร์ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคยังอ่อนไหวต่อกระแสนิยมและแฟชั่นในตลาดโลกสูง จนได้ชื่อว่าเป็นตลาดแฟชั่นที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • การบริโภค: ชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมาก และนิยมทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงร่างกาย นอกจากนี้ ผู้มีรายได้และมีระดับการศึกษาสูงจะนิยมบริโภคอาหารออร์ แกนิกมากขึ้น |
บรูไน | • การตัดสินใจซื้อสินค้า: ชาวบรูไนมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และนิยมสินค้าแบรนด์เนม สินค้าหรูหรามูลค่าสูง และสินค้าฟุ่มเฟือย รวมทั้งให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามาก • รสนิยม: ชาวบรูไนมีข้อจำกัดจากทางด้านวัฒนธรรมและมีกฎระเบียบรวมถึงข้อห้ามที่เคร่งครัด ขณะเดียวกันมีรสนิยมที่ค่อนข้างทันสมัยและอิงสไตล์ตะวันตก • การบริโภค: |
มาเลเซีย | • การตัดสินใจซื้อ: ชาวมาเลเซียมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าที่อำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน สินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าหรูหรามากขึ้น ขณะที่ กลุ่มวัยรุ่นค่อนข้างให้ความ สำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ สะท้อนจากการใช้จ่ายสินค้าไอทีที่มากเป็นอันดับแรกเมื่อเทียบกับการใช้จ่ายด้านอาหารและการพักผ่อนอื่นๆ • รสนิยม: ผู้บริโภคมาเลเซียมีรสนิยมค่อนข้างหลากหลายตามกลุ่มเชื้อชาติ แต่กลุ่มผู้บริโภคที่มีระดับการศึกษาสูงและรายได้สูงมักมีรสนิยมอิงสไตล์ตะวันตก • การบริโภค: |
อินโดนีเซีย | • การตัดสินใจซื้อ: ชาวอินโดนีเซียยังมีช่องว่างทางรายได้ค่อนข้างสูง และผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังค่อนข้างอ่อนไหวกับราคาสินค้า ทำให้ไม่ค่อยนิยมสินค้านำเข้าที่ราคาแพงหรือสินค้าที่มี บรรจุภัณฑ์ราคาสูง • รสนิยม: ผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไปนิยมบริโภคสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งสินค้านำเข้าจากเอเชียและประเทศตะวันตก • การบริโภค: |
ฟิลิปปินส์ | • การตัดสินใจซื้อ: แม้ปัจจุบันกระแสไอทีได้เข้ามามีอิทธิพลต่อสังคมโลกมากขึ้น แต่ชาวฟิลิปปินส์ไม่นิยมการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่นิยมเดินเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเอง (ยกเว้นสินค้า กลุ่มสื่อบันเทิง) นอกจากนี้ ชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยยึดติดกับสินค้าแบรนด์เนม แต่นิยมสินค้า Private Label มากกว่า • รสนิยม: มีรสนิยมค่อนข้างหลากหลาย โดยทั่วไปเน้นความเรียบง่าย สะดวกและเหมาะสมกับระดับรายได้ • การบริโภค: |
การเจาะตลาดของ SMEs ไทย
ผู้บริโภคในกลุ่ม ASEAN-5 มีแนวโน้มรายได้สูง ขึ้นและนิยมสินค้าระดับบนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการ SMEs ไทยอาจผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องทันสมัย เพื่อ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า นอกจากนี้ กระแสการดูแลสุขภาพเป็นแนวโน้มตลาดที่ SMEs ไทยไม่ควรมองข้าม เนื่องจากสินค้าเพื่อสุขภาพอาจไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตสูง แต่เน้นคุณค่าและอนามัยของสินค้า ขณะที่ความนิยมสินค้าอาหารสำเร็จรูปในกลุ่มผู้บริโภค ASEAN-5 ก็นับเป็นโอกาสในการบุกตลาดสำหรับสินค้าอาหารของไทยที่ได้รับการยอมรับ ในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นอาหารพร้อมรับประทาน อาหารฮาลาล ทั้งยังเป็นโอกาสในการขยายตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารด้วย
ผู้ประกอบการ SMEs ไทยควรเร่งปรับตัวใน การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบริการ เนื่องจากสังคมไอทีและความทันสมัยเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดกำลังซื้อสูง
นอกจากนี้ ธุรกิจบริการของ SMEs ไทย โดย เฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพ อาทิ สปา นวดแผนโบราณ ยังมีโอกาสขยายธุรกิจตามกระแสการดูแลสุขภาพในตลาด ASEAN-5 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ที่มีรายได้สูงขึ้น
ที่มา: Euromonitor, KPMG, PricewaterhouseCoopers, USDA.gov และข้อมูลจากสื่อสิ่งพิมพ์ รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
เวียดนาม | พม่า / สปป.ลาว / กัมพูชา |
• การตัดสินใจซื้อ: พฤติกรรมชาวเวียดนามแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ของประเทศ กลยุทธ์การเข้าถึงตลาดจำเป็นต้องชัดเจนและเหมาะสม อาทิ ทางตอนใต้พิจารณามูลค่าสินค้า เป็นสำคัญ ขณะที่ทางตอนกลางให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า ส่วนทางเหนือจะค่อนข้างมัธยัสถ์และพิจารณาประโยชน์และความคงทนเป็นสำคัญ • รสนิยม: ผู้บริโภคชาวเวียดนามมีรสนิยมการบริโภคเปลี่ยนไปในทิศทางที่ต้องการสินค้าระดับกลางถึงบนมากขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มวัยแรงงานของเวียดนามค่อนข้างอ่อนไหวต่อ กระแสความนิยมในตลาดโลก • การบริโภค: | • การตัดสินใจซื้อ: ผู้บริโภคในพม่า/ สปป.ลาว / กัมพูชา ส่วนใหญ่ยังมีกำลังซื้อไม่สูงนัก ทำให้การตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่เน้นพิจารณาจากประโยชน์ของสินค้าเป็นสำคัญ และมักซื้อ สินค้าเท่าที่จำเป็น อย่างไรก็ดี สำหรับกลุ่มวัยรุ่นชาวลาว พบว่า กระแสแฟชั่นสมัยใหม่เข้ามามีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าค่อนข้างมาก โดยเฉพาสินค้าด้านเครื่องแต่งกายและการ ดูแลสุขภาพ • รสนิยม: ประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 3 มีรสนิยมค่อนข้างคล้ายคลึงกับไทย จากประเพณีและวัฒนธรรม และพรมแดนที่อยู่ติดกัน ทั้งยังนิยมเลียนแบบการบริโภคสินค้าผ่านสื่อโทรทัศน์ ของไทย • การบริโภค: |
การเจาะตลาดของ SMEs ไทย
กลุ่ม CLMV เป็นตลาดที่ SMEs ไทยควรให้ ความสำคัญ เนื่องจากทัศนคติและรสนิยมของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ค่อนข้างมองสินค้าไทยในเชิงบวก กอปรกับตลาดกลุ่มนี้ยังมีวัฒนธรรมค่อนข้างใกล้เคียงกับไทยทำให้ SMEs ไทยมี โอกาสเข้าถึงตลาดได้ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ดี ด้วยระดับรายได้ของผู้บริโภคใน ตลาดยังไม่สูงนักและการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ายังมองปัจจัยด้านประโยชน์ใช้สอยและราคาเป็นสำคัญ สินค้า SMEs ไทยจึงควรวางกลยุทธ์เจาะตลาดด้วยสินค้าที่มีราคาไม่สูง นัก
กลยุทธ์การเจาะตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในแต่ ละตลาดควรให้ความสำคัญกับภาษาของแต่ละประเทศ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ในกลุ่ม CLMV ยังใช้ภาษาท้องถิ่นมากกว่าภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ กลุ่ม CLMV น่าจะมีความต้องการ สินค้า/บริการด้านสุขภาพและความงามตามภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยโอกาสการทำธุรกิจอาจจะเป็นไปในลักษณะของการเข้าไปตั้งโรงพยาบาลสาขา คลีนิกเฉพาะทาง และสำนักงานตัวแทนของโรงพยาบาล เพื่อรับผู้ป่วยเบื้องต้นในประเทศ CLMV รวมถึงบรรดานักท่องเที่ยว ซึ่งหากผู้ประกอบการ SMEs ที่เกี่ยวเนื่องสามารถสร้างพันธมิตรที่ดีได้กับ กลุ่มลงทุนดังกล่าวก็น่าจะเป็นช่องทางที่ไม่ควรมองข้าม
ที่มา: Euromonitor, KPMG, PricewaterhouseCoopers, USDA.gov และข้อมูลจากสื่อสิ่งพิมพ์ รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
กล่าวโดยสรุปได้ว่า แม้พฤติกรรมในอาเซียนจะค่อนข้างหลากหลายกันไปในแต่ละประเทศ แต่ผู้ประกอบการ SMEs อาจมองโอกาสการส่งออกและลงทุนในตลาดอาเซียน โดย จำแนกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มผู้มีกำลังซื้อในระดับปานกลางถึงสูง ซึ่งเห็นได้ค่อนข้างชัดในตลาดผู้บริโภคของประเทศอาเซียน-5 และในสังคมผู้มีรายได้สูงของประเทศในกลุ่ม CLMV ซึ่งสินค้าของ SMEs ไทยที่มีโอกาสเจาะตลาดกลุ่มนี้ ได้แก่ สินค้าที่อำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การสื่อสาร/โทรศัพท์ มือถือ สินค้ากลุ่มยานยนต์ รวมถึงสินค้ากลุ่มอาหารจำพวกอาหารสำเร็จรูป และอาหารพร้อมปรุง เพื่อตอบสนองสังคมการทำงานนอกบ้านและความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ สินค้าเพื่อสุขภาพทั้งด้านอุปโภคและบริโภคยังเป็นที่ต้องการของตลาดสูง โดยสินค้าที่จะเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มนี้ ควรเน้นคุณภาพและมาตรฐานสินค้าในระดับสูง ตลอดจนนำนวัต กรรมและเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆเข้ามาเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น สำหรับกลุ่มผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ในตลาด CLMV ซึ่งแม้ปัจจุบันยังมีรายได้ไม่สูงนักแต่ ด้วยเศรษฐกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านระดับรายได้และต้องการบริโภคสินค้าในระดับบนมากขึ้น สินค้าส่งออกของ SMEs ไทยที่มีโอกาสเจาะ ตลาดกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันทั่วไป รวมถึงสินค้าอื่นๆตามกระแสนิยมในยุคไอทีและสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งสินค้าไทยค่อนข้างได้รับการยอม รับในตลาด CLMV พอสมควร เนื่องจากผู้บริโภคใน CLMV ค่อนข้างมีพฤติกรรมบริโภคเลียนแบบสื่อไทย จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้า SMEs ไทยที่ชิงความได้เปรียบในการค้าและการ ลงทุนในตลาดดังกล่าว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
กรกฎาคม 2554